adwords Quality Score (คะแนนคุณภาพ)

ก่อนอื่น Quality Score คืออะไร

Quality Score คือคะแนนที่แสดงถึงคุณภาพของโฆษณา ซึ่งปัจจัยที่กำหนดคุณภาพจะถูกวัดจากความเกี่ยวข้องระหว่างโฆษณา (Ads) กับหน้า Landing Page และ Keyword ที่ผู้ลงโฆษณาได้ใช้เพื่อทำการโฆษณา โดย Quality Score จะแสดงเป็นค่าเป็นตัวเลขตั้งแต่ 1-10 (ยิ่งเยอะยิ่งดี) และระบบจะกำหนดคะแนนนี้ให้กับ Keyword ทุกๆตัวที่อยู่ใน Account ของเรา

ถ้า Keyword คำใดมี Quality Score สูงๆแสดงว่า Keyword คำนั้นมีความเกี่ยวข้องกันระหว่าง Ads, Landing page และ Keyword มาก ยิ่งมีความเกี่ยวข้องกันมากก็จะทำให้คะแนนคุณภาพสูงขึ้นตามไปด้วย

Google จะถือว่า Keyword ที่มี Quality Score สูงๆเป็นการทำโฆษณาที่ดี แต่ในทางกลับกันถ้า Keyword คำใดมี Quality Score ต่ำๆ นั่นหมายความมีความเกี่ยวข้องกันน้อยหรือไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย แบบนี้ถือเป็นการทำโฆษณาที่ไม่ดีในสายตาของ Google

 

Quality Score คำนวณจากอะไร

Quality Score นำเอาปัจจัยหลายๆอย่างมาคำนวณ แต่โดยหลักๆแล้วจะประกอบไปด้วย 3 ปัจจัยดังต่อไปนี้ครับ

  1. ความเกี่ยวข้องระหว่าง Ads กับ Landing Page และ Keyword ถ้าทั้ง 3 อย่างที่กล่าวมามีความเกี่ยวข้องกันและไปในทางเดียวกัน ก็จะส่งผลให้ Quality Score มากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นผู้ลงโฆษณาได้เลือกซื้อ Keyword คำว่า “คอนโดฝั่งธน” ก็ควรจะเขียนโฆษณาและมีหน้า Landing Page ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับคอนโดฝั่งธน
  2. ค่า CTR หรืออัตราการคลิกเทียบกับการแสดงโฆษณา (impression) ถ้า CTR มีค่าเยอะๆนั่นแสดงว่าโฆษณาได้รับความสนใจจากผู้ค้นหา อาจจะเพราะว่าโฆษณานั้นมีความเกี่ยวข้องกับความต้องการหรือมีประโยชน์กับผู้ค้นหา (CTR ส่งผลต่อ Quality Score เยอะมากๆในปัจจุบัน)
  3. Landing page experience หรือแปลเป็นไทยว่าประสบการณ์หน้า Landing page ข้อนี้ไม่ต้องอธิบายให้ยุ่งยากครับ ถ้า Landing Page ของเรามีประโยชน์ผู้ชมก็จะแชร์ต่อให้กับผู้อื่น รวมถึงใช้เวลาอยู่ใน Landing page นาน อ่านเนื้อหานาน ไม่คลิกออกในทันที (bounce rate ต่ำ) และมีโอกาสที่จะเข้าไปอ่านหน้าอื่นๆในเว็บไซต์ต่อไป (page per session สูง)

จริงๆแล้วยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่ผมคิดว่า Google น่าจะนำมาใช้เพื่อคำนวณเป็น Quality Score เช่น Location, Language, Personal Behavior แต่โดยหลักๆแล้ว Google จะให้น้ำหนักกับ 3 ข้อด้านบนนี้เป็นอย่างมากๆครับ

แล้ว Quality Score มันมีประโยชน์กับเราอย่างไร

อย่างที่เรารู้กันดีว่าการลงโฆษณาผ่าน Google Adwords เป็นการประมูลเพื่อแย่งตำแหน่งแสดงโฆษณา (Ad Position) ใครที่ประมูลโดยลงเงินเยอะกว่าก็ควรได้รับตำแหน่งโฆษณาที่ดีมีคนเห็นมากๆ นั่นก็ฟังดูมีเหตุผลใช่มั้ยครับ แต่อย่าลืมว่าการทำแบบนี้มันอาจจะไม่แฟร์กับผู้ค้นหา ไม่แฟร์อย่างไรนะหรอ ก็ลองคิดดูสิครับว่าถ้าเกิดผู้ลงโฆษณาที่มีงบประมาณเยอะๆแต่เป็นเจ้าเว็บไซต์ที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เข้ามาทำโฆษณาโดยการอัดเงินเยอะๆ แบบนี้ก็จะเป็นผลเสียต่อผู้ค้นหาเพราะจะได้ผลการค้นหาที่ไม่ตรงกับความต้องการและไม่มีประโยชน์ ทำให้ Google เองต้องคิดหาวิธีที่ทำให้การลงโฆษณานั้นส่งผลดีกับทั้ง 2 ฝ่าย (ผู้ลงโฆษณา และ ผู้ค้นหา)

จึงต้องมี Quality Score ขึ้นมาเพื่อเป็นคะแนนที่บ่งบอกถึงคุณภาพของโฆษณานั้นๆด้วยว่ามีคุณภาพและตรงกับความต้องการของผู้ค้นหามากน้อยแค่ไหน และ Google ก็จะให้ความสำคัญกับคะแนนนี้ด้วยยกตัวอย่างเช่น ถ้าโฆษณาของเรามี Quality Score มากกว่าโฆษณาของคู่แข่งก็อาจจะส่งผลให้โฆษณาของเราแสดงในอันดับที่เหนือกว่าของคู่แข่งได้ แม้จะใช้เงินประมูลน้อยกว่าก็ตาม และยังส่งผลให้ราคาค่าโฆษณาต่อคลิก (Actual CPC) ที่เราจะต้องจ่ายจริงๆน้อยลง

ทำอย่างไรให้ Keyword ได้รับ Quality Score

  1. เขียนข้อความโฆษณาให้ดึงดูดและน่าสนใจมากที่สุด อย่าลืมใส่ Call to action เข้าไปในข้อความโฆษณา เวลาเขียนโฆษณาให้คิดอยู่เสมอว่าอะไรที่จะทำให้ผู้ค้นหาคลิกที่โฆษณาของเราแทนที่จะเป็นของคนอื่น
  2. ข้อความโฆษณา, Landing page และ Keyword ทั้ง 3 อย่างนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกัน
  3. มี Keyword แทรกอยู่ในหน้า Landing page และข้อความโฆษณา (ถ้าอยู่ใน Headline ได้ยิ่งดี)
  4. ภายใน Ad group ควรมี Ad หลายๆแบบเพื่อให้มัน Rotation เลือกตัวที่มี CTR ดีที่สุด แล้วใช้ตัวนี้เป็นหลัก
  5. ใช้เทคนิค keyword insertion (ช่วยให้ CTR ดีขึ้นพอสมควร)

ดูคะแนน Quality Score ได้จากที่ไหน

สามารถเข้าไปดูได้ใน Report ระดับ Keyword ในกรณีที่เข้าไปแล้วไม่มี Column แบบในรูป ให้ทำการ Custom Column แล้วเพิ่มช่อง Qual.score ลงไปตาราง

1. Quality Score คือคะแนนที่แสดงถึงคุณภาพของโฆษณา ปัจจัยที่กำหนดคุณภาพจะถูกวัดจากความเกี่ยวข้องระหว่างโฆษณา(Ads) กับหน้า Landing Page และ Keyword ที่ผู้ลงโฆษณาได้ใช้เพื่อทำการโฆษณา ?โดย Quality Score จะแสดงเป็นค่าเป็นตัวเลขตั้งแต่ 1-10 (คะแนนยิ่งสูงยิ่งมีความเกี่ยวข้องกันมาก)

นอกจากนี้หากเรามี Quality Score มากกว่าโฆษณาของคู่แข่งก็อาจจะส่งผลให้โฆษณาของเราแสดงในอันดับที่เหนือกว่าของคู่แข่งได้อีกด้วย แม้จะใช้เงินประมูล(Bid)น้อยกว่าก็ตาม

2. ข้อความโฆษณาที่ดี? ควรมี Keyword อยู่ใน Title/Headline และเขียนให้สั้น กระชับ แตกต่าง ควรจะระบุราคา โปรโมชั่นต่างๆที่เป็นตัวเลข หรือข้อดีต่างๆไว้ เพื่อดึงดูดและเพิ่มน่าสนใจ ถ้าเราเขียนข้อความโฆษณาได้ถูกหลักบน Google Adwords เราก็จะได้ Quality Score สูงขึ้น และทำให้ราคาค่าโฆษณาต่อคลิกต่ำลงด้วย

3. A/B Testing เป็นการทดสอบโฆษณา ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อความโฆษณา รูปแบบ องค์ประกอบต่างๆ เพื่อหารูปแบบที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อนำผลการทดสอบของการทำ A/B Testing มาปรับปรุงข้อความและรูปแบบการโฆษณา ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้งบประมาณที่ได้มานั้นให้คุ้มค่าที่สุด?

4. กำหนดกลุ่มเป้าหมายกว้างเกินไป อาจทำให้คนที่เข้าเว็บเรามาไม่ได้สนใจที่จะซื้อสินค้าหรือบริการของเราจริงๆ เพราะลูกค้าเข้ามาแล้วเจอว่าไม่ใช่สินค้าที่เค้าต้องการ จึงทำให้เราเปลืองงบประมาณ ดังนั้นจึงต้องทำความเข้าใจว่ากลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร มีปัญหาอะไร และทำไมลูกค้าถึงมาซื้อสินค้าของเรา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้ถูกต้อง ✅✅

5. ตามสถิติแล้ว ในการทำการตลาดออนไลน์ หน้าแรกที่ดีจะสามารถดึงดูดผู้ใช้ที่มาจาก AdWords ให้คลิกเข้ามาชมเว็บของคุณได้มากขึ้น แต่ถ้าเข้ามาแล้วพบว่าหน้าเว็บเราไม่มีอะไรสร้างสรรค์ ไม่มีอะไรน่าสนใจ หรือไม่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ก็มีโอกาสสูงที่ลูกค้าของเราจะปิดแล้วไม่กลับเข้ามาอีกเลย ตรงกันข้ามกับเว็บที่หน้าแรกออกแบบมาได้ดี จะมีอัตราการเข้าชมเพิ่มขึ้น 10 ถึง 20%?

6. การทำการตลาดออนไลน์ที่ดี ? ต้องใส่ใจในตัวแคมเปญที่เราลงทุนไปด้วย ว่าตรงใจและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากน้อยเพียงใด เพราะแคมเปญตัวเดียวกันก็ใช่ว่าจะได้ผลกับทุกๆ แพลตฟอร์มเสมอไป หรืออาจจะต้องดูเทียบกับ

credit : https://academy.acommerce.asia/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B3-google-adwords-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%84/

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *