ตลอดปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มโฆษณา AdWords ของ Google มีการเปิดตัวบริการใหม่มากมาย โดยเฉพาะบริการที่อำนวยความสะดวกให้นักท่องเน็ตสามารถต่อสายโทรศัพท์ขอข้อมูลเพิ่มเติมได้อย่างทันใจเมื่อเห็นโฆษณาออนไลน์ ล่าสุด Google ก้าวไปอีกขั้นด้วยการชิมลางบริการ Website Call Conversions ซึ่งเริ่มต้นทดสอบบริการแล้วใน 6 ประเทศ
Website Call Conversions ถือเป็นบริการล่าสุดที่ตอกย้ำยุทธศาสตร์หลักของ AdWords เนื่องจากก่อนหน้านี้ AdWords ให้ความสำคัญกับการเปิดตัวบริการใหม่ที่ทำให้นักการตลาดสามารถเชื่อมโฆษณาเข้ากับกระบวนการต่อสายโทรศัพท์ชนิดเป็นเนื้อเดียว ทั้งบริการ click-to-call ads ที่จะทำให้นักการตลาดสามารถติดปุ่ม “Call” หรือโทรออกไว้บนแบนเนอร์โฆษณาออนไลน์ได้เลย, บริการ call metrics ซึ่งจะรวบรวมรายงานการต่อสายโทรศัพท์ของผู้อ่านโฆษณาออนไลน์อย่างละเอียด รวมถึงบริการ calls as conversion ที่สายโทรศัพท์จะถูกนำมาใช้ในโซลูชันประมูลราคาโฆษณาอัตโนมัติบน AdWords
สำหรับ Website Call Conversions หลักการทำงานของบริการนี้คือเมื่อนักท่องเน็ตมีการคลิกบนโฆษณา และเข้าสู่เว็บไซต์หลังการเสิร์ช ทุกคนจะได้เห็นหมายเลขโทรศัพท์พิเศษที่สร้างขึ้นหรือ generate เพื่อเชื่อมโยงกับโฆษณาชิ้นนั้นโดยเฉพาะ หากนักท่องเน็ตมีการคลิกบนหมายเลขเพื่อต่อสายโทรศัพท์โดยตรงจากโฆษณานี้ ข้อมูลการโทรก็จะเชื่อมโยงกับข้อมูลการมองเห็นโฆษณา ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้นักการตลาดสามารถติดตามและผลักดันให้ยอดการต่อสายโทรศัพท์ของนักท่องเน็ตเพิ่มขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม
เหตุที่ทำให้”การผลักดันให้ยอดการต่อสายโทรศัพท์ของนักท่องเน็ตเพิ่มขึ้น”เป็นเรื่องที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม คือการต่อสายโทรศัพท์นั้นสะท้อนว่านักท่องเน็ตรายนั้นมีความสนใจในสินค้าและมีโอกาสสูงมากที่จะเป็นลูกค้าในอนาคต จุดนี้ Google เคยอ้างผลสำรวจล่าสุดว่า 70% ของผู้ค้นหาข้อมูลบนอุปกรณ์พกพานั้นตัดสินใจติดต่อร้านค้าหรือองค์กรธุรกิจทันทีจากผลการค้นหาที่ได้รับ ซึ่งทำให้อัตราการโทรศัพท์ผ่านโฆษณาบน Google มีจำนวนมากกว่า 40 ล้านสายในแต่ละเดือน
สำหรับบริการใหม่ รายงานระบุว่านักโฆษณาสามารถเริ่มใช้งานได้ด้วยการเพิ่มโค้ดชุดคำสั่งไว้บนเว็บไซต์ทั้งเวอร์ชันสำหรับเปิดชมบนคอมพิวเตอร์พีซีหรือบนอุปกรณ์พกพา โดยหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูก generate ขึ้นใหม่จะมีอายุใช้งานราว 3 เดือนหรือ 90 วัน (หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งยังต้องรอข้อมูลที่แน่ชัดต่อไป)
น่าเสียดายที่บริการนี้สามารถเปิดใช้งานได้ที่ 6 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน และออสเตรเลีย
ที่มา: Techcrunchตลอดปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มโฆษณา AdWords ของ Google มีการเปิดตัวบริการใหม่มากมาย โดยเฉพาะบริการที่อำนวยความสะดวกให้นักท่องเน็ตสามารถต่อสายโทรศัพท์ขอข้อมูลเพิ่มเติมได้อย่างทันใจเมื่อเห็นโฆษณาออนไลน์ ล่าสุด Google ก้าวไปอีกขั้นด้วยการชิมลางบริการ Website Call Conversions ซึ่งเริ่มต้นทดสอบบริการแล้วใน 6 ประเทศ
Website Call Conversions ถือเป็นบริการล่าสุดที่ตอกย้ำยุทธศาสตร์หลักของ AdWords เนื่องจากก่อนหน้านี้ AdWords ให้ความสำคัญกับการเปิดตัวบริการใหม่ที่ทำให้นักการตลาดสามารถเชื่อมโฆษณาเข้ากับกระบวนการต่อสายโทรศัพท์ชนิดเป็นเนื้อเดียว ทั้งบริการ click-to-call ads ที่จะทำให้นักการตลาดสามารถติดปุ่ม “Call” หรือโทรออกไว้บนแบนเนอร์โฆษณาออนไลน์ได้เลย, บริการ call metrics ซึ่งจะรวบรวมรายงานการต่อสายโทรศัพท์ของผู้อ่านโฆษณาออนไลน์อย่างละเอียด รวมถึงบริการ calls as conversion ที่สายโทรศัพท์จะถูกนำมาใช้ในโซลูชันประมูลราคาโฆษณาอัตโนมัติบน AdWords
สำหรับ Website Call Conversions หลักการทำงานของบริการนี้คือเมื่อนักท่องเน็ตมีการคลิกบนโฆษณา และเข้าสู่เว็บไซต์หลังการเสิร์ช ทุกคนจะได้เห็นหมายเลขโทรศัพท์พิเศษที่สร้างขึ้นหรือ generate เพื่อเชื่อมโยงกับโฆษณาชิ้นนั้นโดยเฉพาะ หากนักท่องเน็ตมีการคลิกบนหมายเลขเพื่อต่อสายโทรศัพท์โดยตรงจากโฆษณานี้ ข้อมูลการโทรก็จะเชื่อมโยงกับข้อมูลการมองเห็นโฆษณา ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้นักการตลาดสามารถติดตามและผลักดันให้ยอดการต่อสายโทรศัพท์ของนักท่องเน็ตเพิ่มขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม
เหตุที่ทำให้”การผลักดันให้ยอดการต่อสายโทรศัพท์ของนักท่องเน็ตเพิ่มขึ้น”เป็นเรื่องที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม คือการต่อสายโทรศัพท์นั้นสะท้อนว่านักท่องเน็ตรายนั้นมีความสนใจในสินค้าและมีโอกาสสูงมากที่จะเป็นลูกค้าในอนาคต จุดนี้ Google เคยอ้างผลสำรวจล่าสุดว่า 70% ของผู้ค้นหาข้อมูลบนอุปกรณ์พกพานั้นตัดสินใจติดต่อร้านค้าหรือองค์กรธุรกิจทันทีจากผลการค้นหาที่ได้รับ ซึ่งทำให้อัตราการโทรศัพท์ผ่านโฆษณาบน Google มีจำนวนมากกว่า 40 ล้านสายในแต่ละเดือน
สำหรับบริการใหม่ รายงานระบุว่านักโฆษณาสามารถเริ่มใช้งานได้ด้วยการเพิ่มโค้ดชุดคำสั่งไว้บนเว็บไซต์ทั้งเวอร์ชันสำหรับเปิดชมบนคอมพิวเตอร์พีซีหรือบนอุปกรณ์พกพา โดยหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูก generate ขึ้นใหม่จะมีอายุใช้งานราว 3 เดือนหรือ 90 วัน (หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งยังต้องรอข้อมูลที่แน่ชัดต่อไป)
น่าเสียดายที่บริการนี้สามารถเปิดใช้งานได้ที่ 6 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน และออสเตรเลีย
ที่มา: Techcrunch